3 เรื่อง “การตลาดยุคใหม่” ที่ควรเพิ่มในเนื้อหาวิชาการตลาด

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป วิชาเรียนต่าง ๆ ก็จำเป็นต้องพัฒนาขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเฉพาะวิชาการตลาดที่เวลานี้ทุกธุรกิจกำลังมองหาคนที่เรียนสายนี้มาโดยตรง เหตุเพราะหลักสูตรการตลาดยุคดั้งเดิมหลายเรื่องไม่สามารถตอบโจทย์การตลาดออนไลน์ได้แล้ว ดังนั้นนี่คือ 3 เรื่องของการตลาดยุคใหม่ที่อยากนำเสนอและควรแทรกเข้าไปในเนื้อหาวิชาเพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับผู้เรียนมากยิ่งขึ้น และเมื่อจบออกมาสามารถทำงานได้ตรงวัตถุประสงค์ที่ธุรกิจต้องการ

แนะนำ 3 เรื่องการตลาดยุคใหม่ที่ควรแทรกรายวิชาการตลาด

1. Search Marketing 

หากแปลเป็นภาษาไทยตรง ๆ ตัวคือ การตลาดบนหน้าค้นหา เพราะอย่างที่รู้ว่ายุคนี้คนใช้งานอินเตอร์เน็ตกันมากกว่าช่องทางอื่น ๆ หลายธุรกิจจำเป็นต้องสร้างหน้าเว็บออนไลน์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนค้นหาเจอ ตรงนี้เองที่ควรเพิ่มหลักสูตรด้านการค้นหาเข้าไปโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ  การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization มีหลักอย่างไรเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายค้นหาเว็บไซต์ของธุรกิจเจอ เนื่องจากทุกวันนี้มีคนค้นหาบน Google กว่า 3,500,000,000 ครั้งต่อวัน  โดย 35% ของการค้นหาสินค้า เริ่มมาจาก Google (ข้อมูลจาก pacymedia.com) รวมถึงการนำเอาบทเรียนเกี่ยวกับโฆษณา Google เพื่อให้ผู้เรียนรู้ว่าการโฆษณาบนเว็บ Search Engine ยอดนิยมควรทำอย่างไร มีแนวทางแบบไหน วิเคราะห์ Data ให้เป็น เพื่อประโยชน์ของธุรกิจในระยะยาว

2. Social Media

แม้สื่อสังคมออนไลน์จะเป็นสิ่งที่คนยุคนี้คุ้นเคยอย่างดี แต่ถ้าตัดเรื่องความบันเทิงทิ้งไปเชื่อว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ควรนำมาใส่ในเนื้อหาวิชาการตลาด เช่น การสร้างเนื้อหาโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย, รู้วิธีการโพสต์อย่างถูกหลัก, การสร้างคอนเทนต์เพื่อให้เกิดยอดแชร์ และ ช่วงเวลาในการโพสต์ที่จะช่วยให้โพสต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เกิดการมีส่วมร่วมกับโพสต์มากขึ้น อย่างเช่น ช่วงเวลาลง TikTok ควรลงช่วงไหนให้เกิดยอดวิวสูงสุด

เอาเข้าจริงธุรกิจยุคนี้การสร้าง Social Media ของตนเองให้แข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น เพราะผู้ติดต่อสัมผัสถึงความใกล้ชิดระหว่างธุรกิจกับลูกค้าได้มากกว่าเว็บไซต์ปกติ ยิ่งถ้ามีหลักสูตรที่สอนด้านการตลาดเพื่อทำสื่อตรงนี้ให้ครอบคลุมและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูงมาก

3. การวัดผลทางการตลาด 

สิ่งที่ต้องรู้และถือเป็นเรื่องน่าสนใจมากคือ การตลาดยุคใหม่จำเป็นต้องวัดผลได้ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือ สมมุติถ้ามีแฟนเพจ Facebook เวลาโพสต์คอนเทนต์ลงไปแล้วมีคนกดไลค์ กดแชร์เยอะ แสดงว่าเนื้อหาดังกล่าวได้ผล แต่นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะฐานหลักสำคัญของธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จ ต้องสามารถวัดผลจากเว็บไซต์ของตนเองที่มีกลุ่มคนเข้ามาใช้งานได้จริง โดยเฉพาะคนที่ลงโฆษณากับ Google จะมีข้อมูลต่าง ๆ เพื่อวัดผลว่าแนวทางการทำแบบนี้ตอบโจทย์หรือยัง มีการ Conversation มากน้อยเพียงใด หากยังไม่ใช่ก็นำผลดังกล่าวไปปรับปรุงเพื่อให้ตอบโจทย์มากที่สุด

เพราะโลกพัฒนาขึ้นไปทุกวัน การตลาดจึงไม่ใช่แค่หลัก 4 P’s อีกต่อไป ทว่าการทำความเข้าใจเพื่อมุ่งสูงโลกออนไลน์อย่างเต็มตัวจะทำให้คนรุ่นใหม่ที่เรียนจบด้านการตลาดมีความรู้และสามารถนำไปพัฒนาธุรกิจทุกรูปแบบให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลดีในอนาคตกับประเทศด้วย

• Facebook
• Twitter
• Line