Blogท่องเที่ยว

กางเต็นท์นอนท้าลมหนาวที่ภูเรือ ตอนจบ

หลังจากที่ได้เขียนอะไรเรื่อยเปื่อยในเรื่องกางเต็นท์นอนท้าลมหนาวที่ภูเรือตอนแรกไปแล้ว เราก็มาต่อตอนที่สองเป็นตอนจบสำหรับทริปภูเรือนี้กันเลยนะครับ

บทความนี้เป็นตอนเช้าของวันที่ 8 ธันวาคม 2556 อากาศเย็นมากไม่รู้กี่องศาไม่มีเครื่องมือวัด ขอบอกว่าไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลยเพราะมันหนาวสุดๆ ระหว่างที่นอนอยู่เราก็ได้ยินเสียงรถวิ่งกันให้วุ่น คนก็เยอะมากๆ ออกมาดูเลยทราบว่าคนเขาพากันขึ้นไปบนยอดภูเรือ บนนั้นจะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยในซุ้มศาลาตั้งอยู่และบริเวณนั้นก็เป็นจุดชมวิวชมหมอกที่สวยงาม

phurua-1
จุดนี้คือผาโหล่นน้อย ส่วนด้านหลังไกลๆ นั่นคือยอดภูเรือ

แต่ว่าผมและลูกเมียไม่ได้ขึ้นไปกับเขา เราเลือกที่จะเดินไปดูตรงผาโหล่นน้อยเพราะเดินเท้าจากจุดกางเต็นท์ของเราไปไม่ไกลนัก ตรงจุดนี้ก็สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้สวยงามเช่นกัน แถมยังมองเห็นยอดภูเรือที่มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยได้ด้วย

phurua-2
จุดชมวิวผาโหล่นน้อย ภูเรือ

โชคไม่ดีที่วันนั้นไม่มีหมอกที่เป็นลักษณะทะเลหมอกให้เห็นเลย สงสัยยังหนาวไม่พอหรือเราตื่นสายกันแน่ ฮาๆ ถึงอย่างไรก็ตามผู้คนก็หลังไหลมากันเป็นระยะๆ เมื่อชมรมวิวได้สักพักเราก็เดินเท้ากลับลงมาที่เต็นท์ หาของกินก็ได้ขนมปังที่ซื้อไว้เมื่อวานและกาแฟอุ่นๆ อีกพักใหญ่ๆ หลานและแฟนเขาได้กลับมาจากยอดภูเรือ ก็เลยตกลงกันว่าเก็บข้าวของกลับลงเขาไปกันเลย

จากนั้นพวกเราก็ขับรถลงเขาไปเรื่อยๆ ทางชันมาก จะแตะเบรคนานก็ไม่ได้กลัวว่าเบรคจะไหม้ เลยต้องแตะย้ำๆ และลงเกียร์สองให้เครื่องเบรคช่วย พอถึงจุดบริการประชาชนหรือลานที่ 1 เราก็แวะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว แล้วก็กลับลงไป น่าแปลกที่ขากลับทำไมเหมือนทางมันใกล้กว่าถึงเร็วจริง

phurua-3
ลานดอกไม้ภูเรือ
phurua-4
ลานดอกไม้ภูเรือ

พอลงไปเกือบจะถึงตัวอำเภอจะมีลานดอกไม้ซ้ายมือชื่ออะไรจำไม่ได้ เป็นลานกว้างมีดอกไม้เมืองหนาวๆ นานาพันธุ์วางสลับสีสันสวยงาม และมีหลักกิโลเมตรใหญ่ๆ ตั้งตรงกลาง บริเวณนี้เหมาะแก่การถ่ายรูป ลืมไปว่าต้องจ่ายค่าเข้าชมคนละ 10 บาทด้วย แต่ก็คุ้มมาก

เมื่อเดินชมและถ่ายรูปเสร็จก็ออกเดินทางต่อ คราวนี้ถึงจุดยอดนิยมคือลานเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือนั่นเอง ตรงจุดนี้ก็สวยงามไม่แพ้กัน คนเยอะมาก ในมุมมหาชนกว่าจะถ่ายรูปได้ต้องต่อคิวกันนิดหน่อย

phurua-5
ลานเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ
ภูเรือ
ลานเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ

เมื่อเดินชมถ่ายรูปสุขสมใจกันแล้ว ทีนี้ก็เดินทางกลับกันจริงๆ ล่ะ ช่วงนั้นก็เกือบเที่ยงเลยแวะกินข้าวและกาแฟที่ปตท. ภูเรือกันก่อน เมื่อเรียบร้อยก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดเลยคือกลับทางเดิม แต่ต้องแยกทางกับรถอีกคันที่เมืองเลยเพราะแฟนของหลานต้องรีบกับไปคุยงานกับลูกค้า ส่วนผมและครอบครัวก็ตัดสินใจกันว่าจะไปพักต่อที่เชียงคาน ว่าแล้วเราก็ขับตรงมุ่งหน้าไปเชียงคานอีก 40 กว่ากิโลจากเมืองเลยนั่นเอง… แล้วพบกันต่อกับทริปเชียงคาน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *